|
พระสมเด็จสามชั้...
พระสมเด็จสามชั้น ขาโต๊ะ พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงผสมน้ำมันหุงเขียวและผสมมวลสารวัดระฆัง รุ่นสร้างโบสถ์วัดพรหมบุรี ปีพศ.๒๔๙๖
พระสมเด็จสามชั้น ขาโต๊ะ พิมพ์ใหญ่
เนื้อผงผสมน้ำมันหุงเขียวและผสมมวลสารวัดระฆัง
รุ่นสร้างโบสถ์วัดพรหมบุรี ปีพศ.๒๔๙๖
สร้างไว้โดยท่านหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี
ศิษย์องค์สุดท้ายของท่าน
หลวงพ่อเดิม พุทฺธสโร แห่งวัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์
พระวัดพรหมบุรี ถูกสร้างไว้โดยท่านหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม สมัยท่านจำพรรษาอยู่วัดพรหมบุรี
แม่พิมพ์...
แม่พิมพ์สร้างจากหินมีดโกน หรือหินลับมีด จึงเรียกว่าบล๊อกหินมีดโกน บางพิมพ์สร้างแม่พิมพ์จากหินสบู่ ซึ่งจะสร้างลายเส้นได้ดีกว่า ไม่มีการแตกหัดชำรุด และแบบจากไม้โมก (การตัดขอบพระมีทั้งแบบตัดชิดและตัดห่างเนื่องจากคนที่มาช่วยงานกดพระวัดพรหมบุรีมีเยอะมากความชำนาญต่างกัน แม่พิมพ์ทำจากหินมีดโกน ใช้การปั้นเนื้อเป็นลูกอมหรือคล้ายการปั้นแป้งที่ทำขนมบัวลอย แล้วจึงนำไปกด ลงบนแม่พิมพ์
(ในตัวแม่พิมพ์แบบนี้ หน้าจะแคบ หลังกว้างเพื่อให้ง่ายต่อการเคาะพระออกจากบล๊อก)
เมื่อทำการรีดไล่ลมจนเนื้อเต็มพิมพ์แล้วจึงทำการเคาะพระออกจากแม่พิุมพ์ แล้วนำไปผึ่งจนแห้ง ขนาดความหนาบางจึงไม่เท่ากัน เป็นฝีมือชาวบ้านล้วนๆครับ พระวัดพรหมบุรี นั้นยังมีการถอดแม่พิมพ์ แกะแม่พิมพ์ใกล้เคียงกัน หลายพิมพ์ การแก้ไขแม่พิมพ์ระหว่างการกดพระด้วย..ต้องใช้ความชำนาญในการสังเกต และได้เคยเห็นองค์จริง และพระจำนวนมากๆ
พระวัดพรหมบุรี มีการสร้างเนื้อมวลสารหลายแบบ หมดก็ผสมขึ้นใหม่เนื้อพระอต่ละครกจึงมีส่วนผสมต่างกัน และมีหลากหลายพิมพ์ มีการสร้างพระเป็นจำนวนมาก ตากเต็มลานวัดพรหมบุรี พระด้านหลัง จึงมีรอยของไม้กระดาน หลังเป็นรอยผ้าอาบ ตากบนถาด ตากบนกระด้ง ตากจนไก่ในวัดพรหมบุรี นึกว่าเป็นอาหาร มาขุยเขี่ย จนชาวบ้านที่มาช่วยงาน เรียกขนามพระวัดพรหมบุรีว่า
""" พระสมเด็จไก่เขี่ย วัดพรหมบุรี""
พระวัดพรหมบุรีเป็นพระยุคแรกของ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ปี พศ.๒๔๙๖ ที่สร้างเพื่อทำการสร้างโบสถ์วัดพรหมบุรี
พระที่พบเจอ มีทั้งเนื้อผงน้ำมันผสมว่าน เนื้อผงน้ำมันผสมผง ผงน้ำมันนั้นยังมีอีกหลายแบบ เนื้อผงใบลานคลุกรัก เนื้อผงใบลานผสมผงมวลสารวัดระฆัง เนื้อว่านล้วนและ เนื้อดินมีการสร้างหลายแบบ เผาออกมาหลายสีครับเช่น สีดำ สีเทา สีอิฐ เนื่อจากการรับอุณหภูมิความร้อนไม่เท่ากันครับ
ในปัจจุบันนี้ ยังมีพระอีกหลายพิมพ์ที่ยังไม่มีคนรู้จัก จะนำเสนอให้ทราบในคราวต่อไป..เพืี่อเป็นการเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปได้เรียนรู้และได้ศึกษาต่อไป...
ประวัติการสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้
พระชุดวัดพรหมบุรีถือเป็นพระรุ่นแรกหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน การสร้าง ชุดวัดพรหมบุรีนั้นคือ ในปีพศ.๒๔๙๖ สมัยที่ท่านได้ประจำพรรษาอยู่วัดพรหมบุรี
ท่านจึงคิดปรับปรุงการสร้างโบสถ์วัดพรหมบุรีที่ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา จึงได้ดำเนินการจัดสร้างโบสถ์หลังใหม่ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโมท่านจึงคิดที่จะสร้างพระไว้แจกแก่ญาติโยมที่มาช่วยบริจาคเป็นที่ระลึกและตอบแทนในการมาช่วยการสร้างโบสถ์วัดพรหมบุรี ท่านได้ไปขอความเมตตาต่อพระราชโมลีเจ้าอาวาสวัดระฆัง ขอให้เป็นเจ้าพิธีในการจัดสร้างพระราชโมลีได้มอบมวลสารผงของสมเด็จโตที่เก็บ ไว้และได้ออกหนังสือรับรองให้เ มื่อวันที่ ๑๓ พ.ย. ปีพศ.๒๔๙๕ นอกจากนั้นยังมีผงเก่าๆที่ท่านได้รวบรวมไว้เช่น
๑.ผงพุทธคุณของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่าน
๒.ผงพุทธคุณของหลวงพ่อจันทร์ วัดนางหนู ๓.ผงพุทธคุณของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ๔.ผงพุทธคุณของหลวงพ่อเชย วัดปากน้ำ(หรือวัดท่าควาย)
๕.ผงธูปจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เมื่อ รวบรวมผงที่นำมาสร้างพระแล้วได้นำมาสร้างเป็นพระพิมพ์แบบต่างๆ ได้แก่ พิมพ์สมเด็จสามชั้นขาโต๊ะใหญ่ ,จัมโบ้ สมเด็จเจ็ดชั้น พิมพ์สมเด็จสามชั้น,สมเด็จสามชั้นขาโต๊ะเล็กและจิ๋ว,พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว,ขุนแผนนั่งซุ้ม,ขุนแผนพรายกุมาร ,พิมพ์พระประจำวันต่างๆ,พระพุทธชินราช และแบบอื่นๆอีกหลายพิมพ์ ซึ่งแต่และพิมพ์นั้น ได้มีการสร้างไว้ไม่ทราบจำนวน เพราะมีการสร้างโบสถ์แล้วเสร็จในปีพศ.๒๕๐๓ และสร้างวัดอัมพวันด้วยมีการนำแม่พิมพ์ของวัดพรหมบุรีไปสร้างพระวัดอัมพวันด้วย จำนวนการสร้างนั้นไม่ต่ำกว่า๔๐พิมพ์และหลากหลายเนื้อยังมีนำพระกรุเก่ามาถอดแบบพิมพ์อีกด้วย
เมื่อ แล้วเสร็จได้นำพระเหล่าส่วนหนึ่งไปให้หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา ปลุกเสกเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ปีพศ.๒๔๙๖ เสร็จแล้วนำมาปลุกเสกอีกที ที่วัดพรหมบุรีในวันที่ ๑๙ มกราคม ปีพศ.๒๔๙๖โดยมีเกจิที่ร่วมปลุกเสก เช่น
๑. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
๒. หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา
๓. หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว สิงห์บุรี
๔. หลวงพ่อจ่าย วัดรุ้ง อ่างทอง
๕.หลวงพ่อเขียว วัดเสาธงทอง อ่างทอง
๖. หลวงพ่อมี วัดเขาสมอคอน ลพบุรี
๗.หลวงพ่อโม วัดจันทาราม ชัยนาท
๘.หลวงพ่อปลั่ง วัดภิญโญ ลพบุรี
๙.หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาคร เกจิรูปอื่นๆอีก รวมทั้งสิ้น ๒๑ รูป เสร็จแล้วได้นำออกแจกจ่ายญาติโยมที่ร่วมทำบุญ โดยจะแจกพระพร้อมกับใบปลิวรายละเอียดการสร้าง
ก่อนที่หลวงพ่อจะได้ทำการจัดสร้างพระนั้น ท่านได้ไปศึกษาและเรียนวิชากับเกจิ ตามรายชื่อดังนี้ พ.ศ.๒๔๙๓
๑.ท่านพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม พุทธสโร) วัดหนองโพธิ์ พ.ศ.๒๔๙๔ ๒.ท่านหลวงพ่อลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม
๓.ท่านเจ้าคุณอริยคุณาธร (เส็ง ปุสโส) วัดเขาสวนกวาง พ.ศ.๒๔๙๕
๔.ท่านหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ศึกษาทำเครื่องรางของขลัง น้ำมันมนต์
๕.ท่านพระครูวินิจสุตคุณ (หลวงพ่อสนั่น) วัดเสาธงทอง
๖.ท่านหลวงพ่อจาด วัดบ้านสร้าง พ.ศ.๒๔๙๖
๗.ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระราชย์พระราชสิทธิมุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ ศึกษาปฏิบัติกรรมฐาน
พระทั้งหมดที่นำมาลงเพื่อการศึกษาร่วมกัน และพระที่นำมาลง มิใช่พระทั้งหมดของวัดพรหมบุรี
คำเตือนภัย::มีขบวนการปั่นราคาพระในสายท่านหลวงพ่อจรัญ ใส่ราคาให้กันในการประมูลพระ และร่วมมือกันการปั่นราคาเพื่อแสวงหาผลประโยนช์กับผู้ไม่รู้ หรือรู้ไม่ทันในการกระทำของขบวนการของกลุ่ม มีทั้งที่ยังบวชเป็นพระและคนที่อ้างตัวเป็นกลุ่มสายตรง
มีการยัดรุ่น ย้ายวัด อาทิเช่น พระชัยวัฒน์กลีบบัว เนื้อดินพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ เอามายัดเป็นวัดพรหมบุรี ปีพศ.๒๔๙๖ และพระสังกัจจาย์วัดอัมพวัน ปีพศ.๒๕๑๓ ย้ายไปเป็นวัดพรหมบุรี ปีพศ.๒๔๙๖ เป็นต้น..
ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ในการแยกแยะพระ แท้ของทุกๆท่านด้วยครับ
เนื้อผงผสมน้ำมันหุงเขียวและผสมมวลสารวัดระฆัง
รุ่นสร้างโบสถ์วัดพรหมบุรี ปีพศ.๒๔๙๖
สร้างไว้โดยท่านหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี
ศิษย์องค์สุดท้ายของท่าน
หลวงพ่อเดิม พุทฺธสโร แห่งวัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์
พระวัดพรหมบุรี ถูกสร้างไว้โดยท่านหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม สมัยท่านจำพรรษาอยู่วัดพรหมบุรี
แม่พิมพ์...
แม่พิมพ์สร้างจากหินมีดโกน หรือหินลับมีด จึงเรียกว่าบล๊อกหินมีดโกน บางพิมพ์สร้างแม่พิมพ์จากหินสบู่ ซึ่งจะสร้างลายเส้นได้ดีกว่า ไม่มีการแตกหัดชำรุด และแบบจากไม้โมก (การตัดขอบพระมีทั้งแบบตัดชิดและตัดห่างเนื่องจากคนที่มาช่วยงานกดพระวัดพรหมบุรีมีเยอะมากความชำนาญต่างกัน แม่พิมพ์ทำจากหินมีดโกน ใช้การปั้นเนื้อเป็นลูกอมหรือคล้ายการปั้นแป้งที่ทำขนมบัวลอย แล้วจึงนำไปกด ลงบนแม่พิมพ์
(ในตัวแม่พิมพ์แบบนี้ หน้าจะแคบ หลังกว้างเพื่อให้ง่ายต่อการเคาะพระออกจากบล๊อก)
เมื่อทำการรีดไล่ลมจนเนื้อเต็มพิมพ์แล้วจึงทำการเคาะพระออกจากแม่พิุมพ์ แล้วนำไปผึ่งจนแห้ง ขนาดความหนาบางจึงไม่เท่ากัน เป็นฝีมือชาวบ้านล้วนๆครับ พระวัดพรหมบุรี นั้นยังมีการถอดแม่พิมพ์ แกะแม่พิมพ์ใกล้เคียงกัน หลายพิมพ์ การแก้ไขแม่พิมพ์ระหว่างการกดพระด้วย..ต้องใช้ความชำนาญในการสังเกต และได้เคยเห็นองค์จริง และพระจำนวนมากๆ
พระวัดพรหมบุรี มีการสร้างเนื้อมวลสารหลายแบบ หมดก็ผสมขึ้นใหม่เนื้อพระอต่ละครกจึงมีส่วนผสมต่างกัน และมีหลากหลายพิมพ์ มีการสร้างพระเป็นจำนวนมาก ตากเต็มลานวัดพรหมบุรี พระด้านหลัง จึงมีรอยของไม้กระดาน หลังเป็นรอยผ้าอาบ ตากบนถาด ตากบนกระด้ง ตากจนไก่ในวัดพรหมบุรี นึกว่าเป็นอาหาร มาขุยเขี่ย จนชาวบ้านที่มาช่วยงาน เรียกขนามพระวัดพรหมบุรีว่า
""" พระสมเด็จไก่เขี่ย วัดพรหมบุรี""
พระวัดพรหมบุรีเป็นพระยุคแรกของ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ปี พศ.๒๔๙๖ ที่สร้างเพื่อทำการสร้างโบสถ์วัดพรหมบุรี
พระที่พบเจอ มีทั้งเนื้อผงน้ำมันผสมว่าน เนื้อผงน้ำมันผสมผง ผงน้ำมันนั้นยังมีอีกหลายแบบ เนื้อผงใบลานคลุกรัก เนื้อผงใบลานผสมผงมวลสารวัดระฆัง เนื้อว่านล้วนและ เนื้อดินมีการสร้างหลายแบบ เผาออกมาหลายสีครับเช่น สีดำ สีเทา สีอิฐ เนื่อจากการรับอุณหภูมิความร้อนไม่เท่ากันครับ
ในปัจจุบันนี้ ยังมีพระอีกหลายพิมพ์ที่ยังไม่มีคนรู้จัก จะนำเสนอให้ทราบในคราวต่อไป..เพืี่อเป็นการเผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปได้เรียนรู้และได้ศึกษาต่อไป...
ประวัติการสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้
พระชุดวัดพรหมบุรีถือเป็นพระรุ่นแรกหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน การสร้าง ชุดวัดพรหมบุรีนั้นคือ ในปีพศ.๒๔๙๖ สมัยที่ท่านได้ประจำพรรษาอยู่วัดพรหมบุรี
ท่านจึงคิดปรับปรุงการสร้างโบสถ์วัดพรหมบุรีที่ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา จึงได้ดำเนินการจัดสร้างโบสถ์หลังใหม่ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโมท่านจึงคิดที่จะสร้างพระไว้แจกแก่ญาติโยมที่มาช่วยบริจาคเป็นที่ระลึกและตอบแทนในการมาช่วยการสร้างโบสถ์วัดพรหมบุรี ท่านได้ไปขอความเมตตาต่อพระราชโมลีเจ้าอาวาสวัดระฆัง ขอให้เป็นเจ้าพิธีในการจัดสร้างพระราชโมลีได้มอบมวลสารผงของสมเด็จโตที่เก็บ ไว้และได้ออกหนังสือรับรองให้เ มื่อวันที่ ๑๓ พ.ย. ปีพศ.๒๔๙๕ นอกจากนั้นยังมีผงเก่าๆที่ท่านได้รวบรวมไว้เช่น
๑.ผงพุทธคุณของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่าน
๒.ผงพุทธคุณของหลวงพ่อจันทร์ วัดนางหนู ๓.ผงพุทธคุณของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ๔.ผงพุทธคุณของหลวงพ่อเชย วัดปากน้ำ(หรือวัดท่าควาย)
๕.ผงธูปจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เมื่อ รวบรวมผงที่นำมาสร้างพระแล้วได้นำมาสร้างเป็นพระพิมพ์แบบต่างๆ ได้แก่ พิมพ์สมเด็จสามชั้นขาโต๊ะใหญ่ ,จัมโบ้ สมเด็จเจ็ดชั้น พิมพ์สมเด็จสามชั้น,สมเด็จสามชั้นขาโต๊ะเล็กและจิ๋ว,พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว,ขุนแผนนั่งซุ้ม,ขุนแผนพรายกุมาร ,พิมพ์พระประจำวันต่างๆ,พระพุทธชินราช และแบบอื่นๆอีกหลายพิมพ์ ซึ่งแต่และพิมพ์นั้น ได้มีการสร้างไว้ไม่ทราบจำนวน เพราะมีการสร้างโบสถ์แล้วเสร็จในปีพศ.๒๕๐๓ และสร้างวัดอัมพวันด้วยมีการนำแม่พิมพ์ของวัดพรหมบุรีไปสร้างพระวัดอัมพวันด้วย จำนวนการสร้างนั้นไม่ต่ำกว่า๔๐พิมพ์และหลากหลายเนื้อยังมีนำพระกรุเก่ามาถอดแบบพิมพ์อีกด้วย
เมื่อ แล้วเสร็จได้นำพระเหล่าส่วนหนึ่งไปให้หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา ปลุกเสกเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ปีพศ.๒๔๙๖ เสร็จแล้วนำมาปลุกเสกอีกที ที่วัดพรหมบุรีในวันที่ ๑๙ มกราคม ปีพศ.๒๔๙๖โดยมีเกจิที่ร่วมปลุกเสก เช่น
๑. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
๒. หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา
๓. หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว สิงห์บุรี
๔. หลวงพ่อจ่าย วัดรุ้ง อ่างทอง
๕.หลวงพ่อเขียว วัดเสาธงทอง อ่างทอง
๖. หลวงพ่อมี วัดเขาสมอคอน ลพบุรี
๗.หลวงพ่อโม วัดจันทาราม ชัยนาท
๘.หลวงพ่อปลั่ง วัดภิญโญ ลพบุรี
๙.หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาคร เกจิรูปอื่นๆอีก รวมทั้งสิ้น ๒๑ รูป เสร็จแล้วได้นำออกแจกจ่ายญาติโยมที่ร่วมทำบุญ โดยจะแจกพระพร้อมกับใบปลิวรายละเอียดการสร้าง
ก่อนที่หลวงพ่อจะได้ทำการจัดสร้างพระนั้น ท่านได้ไปศึกษาและเรียนวิชากับเกจิ ตามรายชื่อดังนี้ พ.ศ.๒๔๙๓
๑.ท่านพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม พุทธสโร) วัดหนองโพธิ์ พ.ศ.๒๔๙๔ ๒.ท่านหลวงพ่อลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม
๓.ท่านเจ้าคุณอริยคุณาธร (เส็ง ปุสโส) วัดเขาสวนกวาง พ.ศ.๒๔๙๕
๔.ท่านหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ศึกษาทำเครื่องรางของขลัง น้ำมันมนต์
๕.ท่านพระครูวินิจสุตคุณ (หลวงพ่อสนั่น) วัดเสาธงทอง
๖.ท่านหลวงพ่อจาด วัดบ้านสร้าง พ.ศ.๒๔๙๖
๗.ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระราชย์พระราชสิทธิมุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ ศึกษาปฏิบัติกรรมฐาน
พระทั้งหมดที่นำมาลงเพื่อการศึกษาร่วมกัน และพระที่นำมาลง มิใช่พระทั้งหมดของวัดพรหมบุรี
คำเตือนภัย::มีขบวนการปั่นราคาพระในสายท่านหลวงพ่อจรัญ ใส่ราคาให้กันในการประมูลพระ และร่วมมือกันการปั่นราคาเพื่อแสวงหาผลประโยนช์กับผู้ไม่รู้ หรือรู้ไม่ทันในการกระทำของขบวนการของกลุ่ม มีทั้งที่ยังบวชเป็นพระและคนที่อ้างตัวเป็นกลุ่มสายตรง
มีการยัดรุ่น ย้ายวัด อาทิเช่น พระชัยวัฒน์กลีบบัว เนื้อดินพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ เอามายัดเป็นวัดพรหมบุรี ปีพศ.๒๔๙๖ และพระสังกัจจาย์วัดอัมพวัน ปีพศ.๒๕๑๓ ย้ายไปเป็นวัดพรหมบุรี ปีพศ.๒๔๙๖ เป็นต้น..
ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ในการแยกแยะพระ แท้ของทุกๆท่านด้วยครับ
ผู้เข้าชม
855 ครั้ง
ราคา
-
สถานะ
ยังอยู่
โดย
ชื่อร้าน
ยังไม่เปิดร้านค้า
ร้านค้า
-
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
ppanas2509
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
205-2-064xx-x
